[FIC] Hiddlesworth [ChrisXTom]#7 Travel Trip

ฟิคเรื่องนี้เป็นเพียงจิตนาการของผู้แต่ง

หรืออาจจะเป็นฟิคชั่นที่แปลมา

ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ตัวละครเสื่อมเสียใดๆทั้งสิ้น

 อ่านเพื่อความบันเทิง นะแจ๊ะ

My Tumblr : http://jrashiddlesworth.tumblr.com/

FB : https://www.facebook.com/yujean.rasmason

Twitter : https://twitter.com/YuJeanN

Exteen : http://rasmason2.exteen.com

Page : https://www.facebook.com/hiddlesworthfangirl?ref=hl

Wordpess : https://jrasmason.wordpress.com

 

 

C : Chris H. X Tom H.

R : M

G : Romantic

L : Thai

W : Yujean Rasmason

***********************************

 

 

 

หลังจากที่ทั้งคริสและทอมกลับมาจากการพาม้าทั้งสองตัวกลับเข้าคอกและให้รางวัลเป็นแครอทแล้ว ชายหนุ่มร่างสูงก็พาทอมกลับมายังบ้านของน้องชายที่มีอีวานกำลังคอยอยู่อย่างใจจดใจจอ ถึงขนาดที่ว่าวิ่งเข้ากอดทอมแน่นแทนที่ปกติจะวิ่งมาขอให้เขาอุ้ม ซึ่งทอมก็อุ้มเด็กน้อยขึ้นมาอย่างตามใจทำให้เขาคิดว่าทอมน่าจะเข้ากับเด็กๆได้ดี นี่ก็เป็นเวลาเย็นแล้วและเขาคิดว่าถ้าสมมุติจะไปค้างคืนนอกบ้านก็ต้องเพื่อเวลากางเต้นท์เตรียมของเอาไว้ด้วย จะได้ไม่ต้องไปทำตอนฟ้ามืดมันจะได้ไม่ลำบาก

 

“อาทอม ผมอยากกินสปาเก็ตตี้..”คริสและแลมหันไปตามเสียงเล็กๆ ทำให้เห็นว่าทอมและอีวานกำลังนั่งเล่นตัวต่อกันอยู่บนโซฟา นั่นทำให้ทอมพยักหน้าก่อนจะหันมาหาแลมที่ยืนอยู่ใกล้ๆเขาในเชิงว่าทำได้ไหม ซึ่งแลมแทบจะไม่ต้องคิดเลยแม้แต่น้อย

 

“ตามสบายเลยทอม เพื่อพวกฉันด้วยก็จะดีมาก อยากใช่อะไรในตู้…ใช่ได้หมดเลย”แลมพูดออกมายิ้มๆทำให้ทอมพยักหน้า

 

“นายรู้ไหมว่ามันเยี่ยมแค่ไหนที่วันนี้นายพาเทวดามาด้วย ถ้าปกติละก็ฉันคงกำลังพยายามทอดไส้กรอกให้อีวานกินเป็นอาหารเย็น หรือไม้ก็ทอดไส้กรอกเป็นอาหารกลางวันด้วยอีกมื้อ…แต่เพราะแฟนนายทำให้เราได้กินแพนเค้ก มันโรนีผัดซอดครีมและเบคอนกับสปาเก็ตตี้เป็นอาหารเย็น”แลมพูดออกมาขณะมองดูอีวานที่หยิบเส้นสปาเก็ตตี้ให้ทอมอย่ากระตือรือร้น ซึ่งเขาก็พยักหน้าเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเพราะสำหรับเขาและน้องชาย เรื่องอาหารนี้เรื่องใหญ่พอสมควร ก็ตอนอยู่อังกฤษเขาแทบจะกินนอกบ้านตลอดเลย หรือไม่ก็ได้รับความใจดีมาจากผู้ดูแลบ้านของเขาที่บ่อยครั้งก็จะทำอาหารแล้วแช่ไว้ให้เขา สิ่งที่เขาทำเป็นและเก่งที่สุดคือ…อะไรก็ตามที่เข้าไมโครเวฟแล้วกินได้ หรือสลัด

 

“เขาไม่ใช่แฟนฉัน…”คริสพูดขึ้นมาเมื่อนึกได้ ทำให้แลมมองหน้าเขางงๆ

 

“อะไรน่ะ? นายยังไม่ได้ขอเขาเดทหรือ? นี่รอให้ฉันบีบคอนายจริงๆใช่ไหมถึงจะขอเดทไป ดูดิ…เพอร์เฟคขนาดนี้นายยังจะรออะไรลูกนายก็มีแล้วแม่โทรมาหาฉันเมื่อตอนกลางวันว่าถูกใจเด็กอยู่คนหนึ่ง เพราะงั้นเมียนายไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงก็ได้ จริงไหมล่ะ..โอเค ไม่ต้องขอเดท ขอแต่งงานไปเลย นายก็รู้ว่ามีกี่คนกันที่อีวานอยู่ด้วยแล้วไม่ร้อง แถมดุนั่นสิ เรียบร้อยขนาดนั่นฉันยังไม่แน่ใจเลยว่าใช่ลูกฉันเอง”แลมพูดออกมารัวเป็นชุดทำให้เรามองไปตามน้องชายตัวโตที่ชี้ไปที่เด็กน้อยที่กำลังปั้นอะไรซักอย่างเป็นลูกกลมๆและว่างไว้อย่างเรียบร้อยบนจานข้างๆกัน ซึ่งทอมก็กำลังต้นเส้นสปาเก้ตตี้อยู่

 

“อยู่ดีๆนายเป็นบ้าอะไรมายุยงฉันขนาดนี้เนี่ย”เขาถามออกไปทำให้น้องชายเขาเลียริมฝีปากนิดๆขณะลอบมองทอม

 

“ฟังน่ะคริส…เอาจริงๆเลยคือนี่เป็นเรื่องเดียวที่นายแสดงออกมาว่าไม่กล้ามากที่สุด ปกตินายเป็นพวกบ้าบิ่น บ้าดีเดือด ไม่ฟังใครถึงขนาดที่ได้เป็นผู้จัดการบริษัทตั้งแต่อายุยังไม่เหยียบเลขสาม เรื่องสาวๆนายก็ไม่แคร์ พอแม่บ่นว่าอยากได้หลานจากนายนายก็บอกว่าจะรับเลี้ยงบุตรบุณธรรมแทนที่จะแต่งงาน แต่นี้ตั้งแต่ฉันเป็นน้องชายนายมา20กว่าปี เรื่องทอมเป็นเรื่องเดียวที่นายไม่กล้าทำอะไร…เลย! นายแค่เดินไปหาเขา คุยกันสองสามคำแล้วเดินกลับมานั่งเฝ้าอยู่ไกลๆ นี่คนเดียวที่นายพามาพบครอบครัวน่ะและฉันรู้ว่านายคิดอะไรอยู่”แลมพูดออกมาทำให้เขาแส่หน้าไปอีกฝั่ง

 

“มันเร็วเกินไป”

 

“งั้นนายก็เริ่มซักทีสิมันจะได้ไม่เร็วเกินไป ทีตอนที่เราไปเจอสาวๆที่บาร์ตอนที่นายขอเบอร์เธอแล้ววันต่อมาพวกนายก็เดทกกันแล้ว ฉันจำได้ว่าเธอกำลังขี่นายอยู่ขณะที่ฉันถามว่าเธอเป็นใคร เห็นไหมคริสยอมรับเถอะว่านายประหม่าเรื่องทอมเพราะงั้นฉันเลยคิดว่าคนนี้น่าจะมีลุ้น ยังไงนายก็พี่ฉันฉันจะสนับสนุนนาย”แลมบอกด้วยสีหน้าจริงจัง เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขารู้สึกว่าครั้งนี้แลมจริงจัง และเขาก็ดีใจไม่ใช่น้อยที่ได้ยินน้องชายเขาพูดแบบนี้ เขายังไม่ตอบอะไรได้แต่ยืนนิ่งๆคิดถึงสิ่งที่แลมพูด บางทีเขาอาจจะเริ่มต้นจากการ…ชวนทอมไปเที่ยวดูก็ได้

 

“…มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าครับ ให้ผมพาอีวานออกไปเดินเล่นก่อนก็ได้น่ะ”เขาหันมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงหวานของทอม พร้อมกับคนตัวเล็กกว่าที่ถามออกมาด้วยท่าทางไม่สบายใจเล็กน้อย ทำให้เขาเห็นว่าตอนนี้อีวานกำลังยืนเล่นรถอยู่บนโต๊ะห่างออกไปจากพวกเขา คิดว่าเขากับแลมอาจจะคุยกันเสียงดังเกินไปหรือไม่ก็หน้าตาเครียดไปหน่อย

 

“ไม่มีอะไรหรอกทอม ขอโทษน่ะ…เอ่อ เรากำลังคุยเรื่องกีฬาเมื่อช่วงกลางวันน่ะ คริสเขาแพ้พนันฉันอีกแล้วก็เลยหาว่าฉันโกงผลการแข่ง ไม่มีอะไรจริงๆทอม”แลมพูดขึ้นมายิ้มๆทำให้ทอมพยักหน้าในเชิงเข้าใจขณะหันมามองหน้าเขา แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่ยิ้มบางๆไปให้

 

“เอ่อ…สปาเก้ตตี้ใกล้เสร็จแล้วครับ ตอนนี้เหลือแค่รอให้เส้นนุ่มได้ที่กับน้ำซอดเท่านั่น”ทอมบอก

 

“เยี่ยมมาก ฉันขอพาคริสกับอีวานขึ้นไปจัดกระเป๋าได้ไหม เดียวพวกนายก็จะออกไปตั้งแค้มป์กันจะได้ไม่เสียเวลา”แลมพูดขึ้นมาอีก ทำให้ทอมพยักหน้าเข้าใจ

 

“ไม่อยากจะเชื่อว่านายเกือบจะทำให้ทอมรู้ว่าเราคุยเรื่องบ้าอะไรกัน”ชายหนุ่มตัวสูงพูดขึ้นมาทันทีที่ขึ้นมาในห้องภายในชั้นสอง ขณะที่แลมกำลังวางอีวานลงบนพื้นห้องและเดินไปปิดประตู

 

“คิดมากน่าคริส ทอมรู้ก็ดีสิ จะได้ไม่เสียเวลา”แลมพูดขำๆซึ่งเขาก็ทำเพียงปาหมอนใบโตใส่หน้าของอีกฝ่าย

 

“ยังไม่แต่งก็ยังไม่แต่ง แค่ขอคบก็ไม่เสียหายจริงไหม”แลมพูดต่อไปขำๆขณะเดินไปใกล้ประตูห้องเก็บของที่มีถุงเต้นท์สีน้ำเงินเข้ม ซึ่งเขาก็เดินไปช่วยแลมขนของที่จำเป็นออกมา

 

“ใช่ถุงนอนไหม?หรือจะนอนบนฟูกดี ตอนหนาวๆจะได้กอดกันได้”แลมพูดออกมาอีก ทำให้เขาถลึงตาใส่เจ้าน้องชายที่ชอบยัดเยียดความคิดแปลกๆมาให้เขา แต่ส่วนลึกในใจเขาก็ค่อนข้างชอบอยู่เหมือนกัน

 

“ไม่ต้องห่วงคริส เต้นท์ฉันกันลมอย่างดีของแพงเอามากๆ เพราะฉะนั่นถึงไม่ใส่อะไรก็ไม่หนาว”แลมพูดออกมาอีกขำๆทำให้เขาออกแรงแตะเจ้าน้องชายตัวดีไปหนึ่งที โทษฐานที่ทำให้เขาคิดเรื่องอันไม่เหมาะสมขึ้นมา ไอ้ที่ว่าน้องชายเห็นด้วยกับเขาและสนับสนุนมันก็ดีอยู่หรอก แต่บางทีมันก็ดูมากไปนิดหนึ่ง

 

“คุณอาคริสจะไปไหนหรือครับ”และบทสนทนาของเขาก็หยุดลงเมื่อได้ยินเสียงอีวานถาม พร้อมกับดวงตากลมโตที่มองมายังเขาทั้งคู่

 

“อาคริสจะพาอาทอมไปเที่ยวไงครับ ถ้าเพื่อว่าอาคริสทำให้อาทอมมีความสุขได้ อาทอมก็จะมาเที่ยวทีนี้อีกไง อีวานชอบอาทอมใช่ไหม งั้นอีวานต้องทำตัวเป็นเด็กดีเพื่ออาทอมจะมาหาอีวานอีก”แลมพูดออกไปทำให้เด็กน้อยพยักหน้า

 

“อาคริสจะพาอาทอมมาหาอีวานอีกใช่ไหมครับ?”ชายหนุ่มร่างสูงเหลือบไปมองน้องชายตัวแสบที่แอบกลั่นยิ้มอยู่ใกล้ๆก่อนจะหันมายิ้มกว้างให้หลานชาย

 

“ถ้าอาทอมอยากมา อาก็จะพาอาทอมมาหาอีวานเองครับ”คริสบอกยิ้มๆซึ่งอีวานก็ยิ้มกว้างออกมาจนตาหยี

 

“คริสนายพาอีวานลงไปข้างล่างก่อนไป ฉันจัดของให้เอง”ชายหนุ่มพูดออกมา ทำให้เขาหันไปมองพลางหลี่ตาลงเล็กน้อย

 

“แลม…ถ้านาย-”

 

“ไม่มีการเล่นไม่ซื่อกัปตัน ด้วยเกียรติของสปาเก้ตตี้เลย”แลมพูดขึ้นมาอีก ซึ่งเขาก็ไม่ได้เชื่ออะไรมากมายนักหรอก แต่เพราะอีวานที่เดินมาเกาะขาเขาแล้ว เขาจึงไม่อยากเถียงอะไรต่อกับน้องชายของเขา

 

“ถุงนอนสองถุง”เขากำชับอย่างจริงจังขณะเดินออกมาพร้อมอีวานในอ้อมแขน

 

“ถุงนอนสองถุง”แลมรับคำยิ้มๆ

 

หลังจากที่เขาทำสปาเก้ตตี้มีตบอลเสร็จแล้ว คริสก็พาอีวานลงมาจากชั้นสองพอดี ก่อนที่ไม่นานนักแลมจะลงมาพร้อมกับข้าวของมากมายที่ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหน และไม่นานนักทั้งหมดก็นั่งทานดินเนอร์กันอย่างมีความสุขโดยที่แลมชมเขาไม่ขาดปากเลยเรื่องที่ว่าสปาเก้ตตี้นี้อร่อยแค่ไหน รวมทั้งเด็กน้อยตัวเล็กที่พูดไม่หยุดเรื่องที่ว่ามีตบอลกลมๆเจ้าตัวเป็นคนปั้นเอง ซึ่งเขาก็มีความสุขที่เห็นคนอื่นๆชอบอาหารของเขา รวมทั้งคริสด้วยที่ดูจะแปลกไปนิดหน่อยตั้งแต่ที่คุยกันด้วยสีหน้าจริงจังกับแลมในช่วงที่ผ่านมา คริสลอบมองเขาบ่อยมาก…บ่อยกว่าปกติ จนบางครั้งเหมือนมีเรื่องอะไรซักอย่างจะถามเขาแต่ก็ไม่พูดออกมา จนเขาเริ่มคิดมากว่าคริสอาจจะไม่สบายหรือมีปัญหาอะไรซักอย่าง

 

เมื่อทานอาหารและจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว ชายหนุ่มผมสีอ่อนก็ค่อยๆนั่งลงเป็นเพื่อนอีวาน ในระหว่างมองชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ทั้งสองคนเตรียมของใส่หลังรถ โดยที่คริสบอกเขาว่าแลมเตรียมของไว้เยอะมากเลยคิดว่าขับรถไปน่าจะสะดวกกว่า และเขาก็เห็นด้วยอย่างยิ่งเพราะเขาจะได้เอากระเป๋าเขาไปด้วยไม่ต้องทิ้งไว้ที่บ้านของแลม พลางมองดูบรรยากาศที่ตอนนี้มืดลงมากแล้วแต่ยังมีแสงอยู่ให้ความรู้สึกไปอีกแบบ

 

“อาทอมครับ…”เขาหันมายิ้มให้เด็กตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังนั่งมองหน้าเขาอยู่

 

“อาทอมจะมาหาอีวานอีกไหม?”เขานิ่งคิดกับเสียงเล็กๆที่ถามมาด้วยความหวังเต็มเปี่ยม ซึ่งเขาก็เผลอมองคริสที่อยู่ห่างออกไปโดยไม่รู้ตัว

 

“ถ้าอาคริสอยากให้อามา อาก็จะมาหาอีวานครับ”เขาตอบออกไป ทำให้เด็กน้อยยู่หน้า

 

“คุณพ่อบอกว่าถ้าอาคริสทำให้อามีความสุขได้ อาทอมก็จะกลับมาหาอีวาน อาทอมมีความสุขที่อยู่กับอาคริสใช่ไหมครับ?”เขานึกอึ้งเล็กน้อยกับคำถามที่ออกมาจากปากเล็กนั่น คำถามที่แสนใสซื่อของเด็กน้อยที่นั่งกอดขาเขาไว้ทำให้เขาถึงกับไม่รู้ว่าควรจะตอบอะไรออกไป

 

“มีความสุขสิ…อามีความสุขมากเมื่ออยู่กับคุณอาคริส”เขาตอบออกไปเบาๆขณะที่ใบหน้าก็แดงขึ้นเล็กน้อยราวกับว่าที่พูดออกมาเหมือนกับบอกตัวเองมากกว่า

 

“งั้นอาทอมต้องมาหาหาอีวานอีกนะครับ มาทุกปีเลย มาบ่อยๆเหมือนที่อาคริสมาหาอีวาน”เขาขำออกมาเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของอีวานที่มันช่างดูน่ารักในสายตาเขาเหลือเกิน

 

“ครับผม อาจะมาแน่นอน”

 

 คริสลอบมองชายหนุ่มตัวเล็กกว่าที่ตอนนี้คุยอะไรกระซิบกระซาบอยู่กับอีวาน แถมยังหน้าแดงขึ้นอีกต่างหากจนเขาเริ่มสงสัยว่าคุยอะไรกัน แต่ก็เปลี่ยนเป็นหันมาจัดของต่อเหมือนเดิมเพื่อที่จะได้ออกเดินทางไวๆ แม้ว่ามันจะไม่ได้ไกลอะไรมากเลยก็ตาม แต่เพราะเจ้าบาแลมดันยกถังน้ำแข็งที่แช่เบียร์เอาไว้ขึ้นมาด้วย ทำให้เขาต้องจำใจขับรถไป แต่มันก็ดีแล้วตรงที่ว่าหากเดินไปเขากลัวว่าทอมจะไม่ไหว เพราะตอนกลางวันก็ไปขี่ม้ามาอาจจะเหนื่อยจนแบกเป้ไม่ได้ แถมในรถนี่ก็ยังใส่อะไรไว้เยอะแยะจนเขาบ่นแลมไปหลายรอบให้ทำความสะอาดรถบ้าง ขนาดที่มีกีต้าร์ว่างอยู่ตรงเบาะหลังเลยด้วยซ้ำ ซึ่งเจ้าตัวก็ให้เหตุผลว่าไม่มีเวลาเอาลง

 

“ฉันมั่นใจว่านายแค่หลับตาก็กางเต้นท์ได้อยู่แล้ว ที่เหลือก็ไม่มีอะไรมาก..นั่นถุงของกินเล่น นี้เบียร์ น้ำเปล่า น้ำอัดลม…ไฟฉายแบบแขวน นั่นพวกอุปกรณ์จุดไฟ…เอ่อ…ถ้ามีเรื่องอะไรเดียวจะขับรถไปหาแล้วกัน ที่เดิมที่ฉันทำม้านั่งไว้ใช่ไหม”แลมถามออกมาทำให้เขาพยักหน้า

 

“และก็นี่ขอบขวัญจากน้องชาย…”เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าน้องชายเขาหยิบอะไรวักอย่างออกมาจากกระเป๋าแล้วยัดมันใส่มือเขา และเขาก็ตาโตขึ้นมาเมื่อเห็นว่ามันคืออะไร

 

“แลม…”เขาเรียกออกไปเสียงแข็งขณะถลึงตามองอีกฝ่าย ซึ่งแลมก็ยิ้มให้เขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“อะไร? ทีตอนที่ฉันออกไปดูหนังกับสาวตอนไฮสคูล นายยังเอาอะไรแบบนี้ยัดใส่มือฉันเลย ไม่ต้องห่วงอันนี้ดีกว่าที่นายให้ฉันตอนนั่นแน่นอน นี่กลิ่นบลูเบอร์รี่น่ะ”แลมบอกซึ่งเขาก็แทบจะแยกเขี้ยวออกมา

 

“มันไม่เหมือนกันเว้ย…ฉันจะไม่ทำอะไรทอมเด็ดขาด ไม่มีการบังคับถึงไม่บังคับฉันก็ไม่ขอ ไม่มีการอะไรทั้งนั่น…”เขาเค้นเสียงออกมาพลางเหลือบตามองกลัวว่าทอมจะได้ยิน ในขณะที่พยายามยัด”สิ่งนั่น”คืนแลมไป แต่น้องชายเขาก็ถอยหนีพร้อมขำออกมา

 

“ไม่ใช่ก็ไม่เห็นเป็นอะไร โยนๆไว้ในรถฉันก็ได้..ทอม!!! มานี่เร็วเข้า เราเสร็จแล้ว”และเขาก็แทบจะแยกเขี้ยวออกมาเมื่อเจ้าน้องชายตัวดีหันไปเรียกชายหนุ่มที่นั่งอยู่ให้ลุกขึ้นมา กลายเป็นว่าเขาเลยทำอะไรไม่ได้เพื่อไม่ให้ทอมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และเมื่อทอมเข้ามาใกล้เขาจึงรีบยัดห่อพลาสติกถุงเล็กเข้าในกางเกงทันทีและยิ้มให้ทอมอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“ฉันสาบานแลม..ฉันจะฆ่านาย”เขาถลึงตาพูดออกมาเมื่อแลมเปิดประตูให้ทอมเข้าไปนั่งในรถและไม่ยอมไปไหนจากกระจกรถที่ทอมอยู่ ทำให้เขาเอาของบ้าๆนั่นยัดคืนใส่มือน้องชายไม่ได้ ทำให้เขาต้องเดินอ้อมไปยังฝั่งคนขับเมื่อไม่อยากให้ทอมรอ

 

“ฉันก็รักนายคริส”แลมยิ้มกว้างขึ้นมาขณะโบกมือลาพี่ชายตัวดตและว่าที่แฟนในอนาคต

 

 

 

 

 

/*/

 

 

 

 

 

ตอนนี้เขากำลังก่อกองไฟอยู่ในระหว่างที่คริสกำลังกางเต้นทท์อยู่ที่ด้านหลัง ซึ่งตอนนี้เขาทั้งคู่มาถึงป่าสนที่คริสชี้ให้ดุในช่วงที่มาขี่ม้า และเขาคิดว่ามันใหญ่กว่าที่คิดไว้ตอนแรกอย่างมากแต่ที่ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้คล้ายๆถูกทำไว้สำหรับตั้งแคมป์โดยเฉพาะ เพราะมีรอยไม้ถูกตัดออกไปประมาน5-6ต้น กับโต๊ะม้านั่งที่ตั้งเอาไว้ มีรอยทรายบริเวณหนึ่งซึ่งเขาคิดว่าเป็นที่สำหรับก่อไฟแถมด้วยหินก่อนขนาดใหญ่กว่ากำปั้นที่ร้อมกันเป็นวงกลมเอาไว้ ซึ่งเขาก้ช่วยคริสด้วยการขนของออกมาจากหลังรถที่เปิดเอาไว้และลงมาก่อไฟอย่างตั้งอกตั้งใจ(ด้วยการแนะนำของคริส) ทำให้เขาเริ่มรู้สึกว่าคริสช่างดูเก่งไปซะทุกเรื่องจริงๆ

 

หลังจากที่เขามั่นใจว่ากองไฟของเขาจะไม่ดับลงมาแน่นอน เขาก็ลุกขึ้นเพื่อยืนดูผลงานและเพราะกองไฟของเขาทำให้เห็นเป็นแสงสีส้มสะท้อนอยู่บนต้นไม้ ในขณะที่อีกฝั่งมีแต่ผืนฟ้าที่เริ่มมืดลงมากกว่าเดิม ทำให้เขาเริ่มคิดแล้วว่าถ้ามืดมากกว่านี้ดาวคงจะสวยมากๆ หากว่าเมฆไม่เยอะละก็น่ะ แต่เขาก็ต้องละความสนใจมาจากท้องฟ้าและผืนป่าเสียก่อนเมื่อได้ยินเสียงสบทเบาๆมาจากในเต้นท์ที่คริสกำลังกางอยู่ เขาจึงรีบเดินไปหาทันทีกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 

“มีอะไรหรือคริส?”เขาถามออกไปทำให้คนตัวสูงหันมามองเขาด้วยท่าทีตกใจเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมา

 

“ไม่มีอะไรทอม..ฉันแค่เอ่อ…หาถุงนอนไม่เจอ บางทีแลมอาจจะลืมหยิบมาให้เลยมีแค่ฟูกนอนกับผ้าห่มสองสามผืน”เขามองเลยเข้าไปในเต้นท์ที่มีผ้าอยู่เยอะบวกกับฝูกก็หนา เขาคิดว่ามันนอนได้แน่ๆเพราะนี่ไม่ใช่หน้าหนาวมันคงไม่มีปัญหาอะไร

 

“…ฉันจะขับรถกลับไปเอาถุงนอน นายรออยู่นี้ก็ได้”คริสพูดขึ้นมาอีกทำให้เขาเงยหน้ามองอีกฝ่าย

 

“ไม่เป็นไรครับ ผมว่านี่ก็นอนได้น่ะครับ ผมไม่ค่อยใช่ถุงนอนอยู่แล้วเวลาแคมป์ในป่า ผมนอนไม่ดิ้นครับรับรอง…”เขาพูดออกไปยิ้มๆเพราะคริสอาจจะกลัวว่าเขาจะนอนไม่ได้หรือไม่ก็ดิ้นออกมานอกเต็นท์ นั่นทำให้อีกฝ่ายยิ้มแห้งๆมาให้เขา

 

“ถ้านายว่าอย่างงั่นก็โอเค…”คริสถอนหายใจออกมาเบาๆซึ่งเขาคิดว่าคนตัวสูงอาจจะไม่ชินกับการนอนโดยไม่มีถุงนอน บางทีอาจจะหาอะไรทำเพื่อให้คริสลืมเรื่องเล็กน้อยแบบนี้

 

“มานั่งสิครับ เดียวผมย่างมาสเมโลวให้”เขาบอกพลางตบลงบนเก้าอี้ตัวเล็กที่ตั้งไว้ใกล้ๆกองไฟ ทำให้คริสเดินมานั่งอย่างว่างานก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปหยิบถุงขนมต่างๆออกมาจากหลังรถ

 

“นายกินเถอะ ฉันไม่เคยกินมันมาตั้งแต่อายุเท่าอีวาน”เขาได้ยินเสียงทุ้มพูดขึ้นมาขณะที่เขาใช้ไม้เสียบมาสเมโลวสีขาว ซึ่งเขาก็เงยหน้ามองชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ คริสดูดีมากจริงๆยิ่งอยู่ในแสงไฟแบบนี้แล้วยิ่งดูเท่ห์แบบหนุ่มคันทรี่เข้าไปใหญ่

 

“มันอร่อยนะครับ ลองดูสิผมทำให้”เขายิ้มออกมาเมื่อเห็นสีหน้าคริสที่มองดูมาสเมโลวที่เขากำลังปิ้งไฟอยู่ ทำให้ได้กลิ่นหอมหวานๆลอยมา

 

“นี่ครับผมจะสอนให้…วิธีกินก็ย่างให้มันเริ่มระลายนิดหนึ่ง เสร็จแล้วก็หยิบบีชกิตมาแบบนี้…วางลงไปแล้วประกบด้วยบีชกิตอีกอัน บี้ลงมาแล้วดึงออกจากไม้”คริสมองตามมือเรียวขาวที่ทำอย่างคร่องเคร่วขณะที่มองเลยขึ้นมาถึงใบหน้าของทอมที่ยิ้มออกมาเล็กๆ ดูทอมจะอารมณ์ดีกว่าปกติ เขาคิดว่าน่ะ…ทอมคงจะชอบมาเที่ยวอะไรที่เป็นธรรมชาติแบบนี้

 

“ลองดูสิครับ..”เขาก้มลงมองบิชกิตที่ตอนนี้สอดไส้มาชเมโลวสีขาวนุ่มเอาไว้ ซึ่งทอมก็ยื่นมันมาตรงหน้าของเขา แม้ว่าจะลังเลไปบ้างว่าจะกินดีไหม แต่พอเห็นดวงตาสีสวยที่มองมาทางเขาอย่างมีความหวังเขาก็ปฏิเสธไม่ลง เลยกัดลงไปบนบีชกิตในมือเรียวของทอม

 

“เป็นไงมั่งครับ”ทอมขำออกมาเบาๆเมื่อเขากินบีชกิตอีกครึ่งเข้าไป นึกดีใจอยู่ไม่ใช่น้อยที่ทอมใจดีถึงขนาดป้อนให้เขา และเขาคิดว่ารสชาติมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนัก ออกจะอร่อยๆด้วยซ้ำเมื่อกินกับเบียร์ที่เขาถืออยู่

 

“คุณกินเลอะหมดแล้ว “ทอมยิ้มออกมานิดๆขณะเอื่อมมือออกไปเช็ดเศษขนมปังที่ติดอยู่รอบกลีบปากหยัก ซึ่งคริสก็ทำเพียงแค่อยู่นิ่งๆให้ทอมเช็ดให้เท่านั่น

 

หลังจากที่ทอมทำมาสเมโลวให้คริสกินจนชายหนุ่มพอใจแล้ว คริสก็อาสาทำให้ทอมกินบ้าง ซึ่งเหตุการณ์ผ่านไปอย่างสนุกสนานเพราะคริสทำมาสเมโลวไหม้ไปหลายอัน แต่ถึงอย่างนั่นชายหนุ่มตัวสูงก็ไม่ได้มีความย่อท้อแต่อย่างใด และทอมก็ดูจะชอบที่คริสมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะทำอะไรวักอย่างให้เขากิน รวมทั้งชอบที่จะป้อนขนมเขาซะด้วย ทั้งคู่คุยกันในเรื่องต่างๆทั้งเรื่องไร้สาระอย่างเรื่องที่ว่าทำไมเมฆถึงมีสีขาวและผลสรุปก็ยอมรับกันที่ว่า เพราะพระเจ้าชอบมาชเมโลวก็เลยทำให้เมฆเป็นแบบนั่น รวมถึงเรื่องที่ว่าทำไมทอมถึงเป็นนักเขียนอิสระ

 

เมื่อดื่มเบียร์กันไปมากคนละหลายกระป๋องอยู่ บวกกับที่อยู่ดีๆทอมก็นึกขึ้นได้ว่าในรถมีกีตาร์อยู่ เจ้าตัวก็เลยอาสาโชว์ความสามารถในการเล่นกีตาร์และร้องเพลงไปด้วย และคริสก็ดูจะพออกพอใจไม่ใช่น้อยที่ได้ยินเสียงหวานๆร้องเพลงให้เขาฟัง ขณะที่เขาเองก็ดื่มเบียร์ไปด้วยอย่างค่อนข้างมีความสุข บางทีก็ช่วยทอมร้องเพลงไปด้วยแม้จะไม่ตรงคีย์เลยแม้แต่น้อย ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าคนเมาสองคนกำลังแหกปากร้องเพลงแข่งกัน ซึ่งเขาไม่สนใจเพราะเขาคิดว่ามันสนุกเอามากๆ ยิ่งเห็นทอมขำออกมาน้ำตาเล็ดเพราะท่าเต้นประกอบจังหวะของเขามันยิ่งทำให้เขามีความสุขและรู้สึกดีเข้าไปใหญ่

 

“เริ่มง่วงหรือยังทอม”เขาถามออกมาขณะเก็บกระป๋องเบียร์ใส่ถุง ซึ่งคนที่นั่งยืดขนอยู่ใกล้ๆเขายังไม่ได้ตอบอะไร แต่ตอนนี้กำลังเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เขาไม่แน่ใจว่ากี่โมงแล้ว แต่แน่ใจว่าดึกแล้วแน่ๆ แถมกองไฟก็จะดับแล้วด้วย และเขากำลังคิดอยู่ว่าจะเติมไม้หรือว่าจะดับกองไฟไปเลยดี

 

“ผมอยากดูดาว”ทอมตอบออกมาเสียงหวาน พร้อมกับใบหน้าที่แดงขึ้นจางๆซึ่งเขาก็พยักหน้าเข้าใจ

 

“ฉันดับไฟเลยน่ะ แต่จะเปิดไฟฉายไว้ในเต้นท์”ร่างสูงบอกออกไปขณะที่เดินไปเปิดไฟฉายแบบแขวนที่อยู่ในเต้นท์ ตั้งเป็นไฟแบบต่ำจะได้ไม่เปลืองแบตมากนก จนเห็นเป็นแค่แสงจางๆพอให้มองเห็นได้ ขณะเดินกลับมาจัดการข้าวของเก็บให้เข้าที่และเริ่มเอาทรายดับกองไฟ ไม่นานนักเมื่อไฟดับลงหมดแล้วเขาก็เอาน้ำเปล่าราดลงไปอีกทีเพื่อความแน่ใจ เขาคิดว่ามันน่าจะมือสนิทและมันก็ไม่ได้มืดน่ากลัวเหมือนคืนเดือนดับ ยังดีที่อย่างน้อยๆเขาก็พอเห็นว่าทอมอยู่ตรงไหน และไม่เคยคิดเลยว่าตอนกลางคืนจะยังมีแสงอยู่ อาจจะเป็นเพราะแสงจันทร์บนหัวเขาก็ได้

 

“หาผมเจอไหมครับว่าอยู่ตรงไหน”ทอมถามออกมาขำๆซึ่งเขาก็ได้แต่หัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้คนที่ยังคงเงยหน้าดูดาวบนท้องฟ้าอยู่ และเขาเริ่มจะเห็นอะไรชัดขึ้นมาเรื่อยๆเหมือนกับสายตาปรับภาพได้แล้ว ทำให้เห็นอะไรๆชัดขึ้นกว่าเดิม

 

“ผมอยากนอนดูดาวจัง..”ทอมลุกขึ้นมานั่งดีๆพร้อมกับมองไปทั่วราวกับว่ากำลังหาทำเลอยู่ ซึ่งเขาก็เพียงแค่เลิกคิ้วนิดๆ

 

“เอาผ้าไหม ฉันหยิบมาให้”ชายหนุ่มตัวสูงถามออกมา แต่ทอมกลับส่ายหน้าปฏิเสธเป็นการใหญ่ในขณะลุกขึ้นยืนก่อนที่เขาจะรู้สึกถึงมือนุ่มของอีกคนที่เอื่อมออกมาจับมือเขาเอาไว้และออกแรงดึงให้ตามไป

 

“เดียวผมจะพาไปทำอะไรสนุกๆ”เสียงหวานพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าถูกชวนให้โดดเรียนยังไงยังงั้น ซึ่งเขาก็ตามทอมไปอย่างว่างาย อยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้าของดวงตาสีเขียวสวยตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ และเขาก็ตาโตขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อทอมพาเขามาหยุดอยู่ที่หลังรถยนต์ก่อนจะเริ่มปีน…ปีนจริงๆ เพื่อขึ้นไปยังหลังคารถยนต์ที่ยาวออกมาจนหน้าตาเกือบจะเหมือนรถตู้ และเขาก็ต้องรีบเข้าไปพยายามช่วยทอมทันทีเพราะกลัวว่าจะตกลงมา แต่ทอมก็ขึ้นไปในที่สุดพร้อมกับชะโงกหน้ามาหาเขาพร้อมกับรอยยิ้มซุกซนที่ทำให้เขาใจอ่อนยวบลงไปจนไม่กล้าดุอะไร

 

“ขึ้นมาสิคริส..”เขาได้ยินเสียงหวานพูดออกมา ซึ่งเขาก็ทำได้แค่ขำออกมาเล็กน้อยและเริ่มปีนขึ้นไปบ้าง ซึ่งเขาใช่เวลาน้อยกว่าทอมมากเพราะเขาปีนขึ้นมาบนนี้บ่อย แต่เป็นการปีนขึ้นมาผูกจักรยานหรือไม่ก็เซิฟบอล์ดมากกว่า ทำให้เขาเห็นว่าทอมขำออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเขาขึ้นมาในที่สุด

 

“ผมนึกว่าคุณจะขึ้นมาไม่ได้ซะแล้ว”ทอมบอกยิ้มๆและเขาก็ทำได้แค่สายหน้าเล็กน้อย

 

“ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย…แต่อยากทำมานานแล้ว”ทอมบอกพร้อมกับรอยยิ้มหวาน แต่กว่าเขาจะตอบอะไรทอมก็นอนลงไปซะแล้ว ทำให้เขาเห็นใบหน้าของทอมชัดขึ้น ดวงตาสีเขียวสวยตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นประกายมากยิ่งขึ้นเมื่อเจ้าตัวกำลังจ้องมองดวงดาวบนฟ้า และเขาก็ตัดสินใจนอนลงไปข้างๆทอมพร้อมกับมองเลยไปยังเบื่องบน และเขาคิดว่ามันสวยจริงๆอย่างที่ทอมเคยบอก ท้องฟ้าที่จะเรียกว่าสีดำก็ไม่เชิง จะสีฟ้าก็ไม่ใช่ ออกจะเป็นสีม่วงเข้มผสมกับสีน้ำเงินเสียมากกว่า พร้อมกับสุดสีขาวเป็นประกายอยู่ทั่วไปหมด มันทำให้เขานึกอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้ซักรูปแต่เขาไม่มีกล้องนี่สิ คิดได้ดังนั่นเขาจึงหันไปหาคนข้างๆเพื่อจะถามหากล้องของทอม

 

“ทอมนาย….”เขาพูดออกมาได้เพียงแค่นั่นเมื่อหันมาพบกับเสี่ยวหน้าหวานที่ดูมีความสุข ซึ่งสายตากลมโตกำลังมองตรงเลยออกไปยังท้องฟ้าเบื่องบน ชั่วขณะหนึ่งมันทำให้เขาลืมว่าเขาจะพูดอะไร เขารู้แค่ว่าตอนนี้หัวใจเขากลับมาเต้นแรงอีกครั้งเมื่อพบความจริงที่ว่าทอมกำลังนอนอยู่ข้างๆเขา ไม่นานนักดวงตากลมสีสวยก็หันมามองสบตากับเขาพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ

 

“ครับ?”เขาได้ยินเสียงทอมพูดออกมาเล็กๆ ซึ่งนั่นทำให้เขาพยายามคิดว่าก่อนหน้านี้เขาเรียกทอมทำไม และเขาก็คิดไม่ออกได้แต่มองสบตากับทอมไปเรื่อยๆราวกับว่าเขาไม่เคยเห็นมันมาก่อน ซึ่งทอมก็ไม่ได้หลบตาเขาแม้แต่น้อย

 

“ผมว่ามันสวยเอามากๆเลยนะครับ…มันดูสงบนิ่งแต่ก็สวยงาม แค่มองมันค่อยๆขยับไป บางทีก็ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเล็กเอามากๆ และก็อยู่ไกลเอามากๆด้วย”ชายหนุ่มบอกก่อนจะหันกลับไปมองจ้องดวงดาวตรงหน้าต่อ ต่างกับเขาที่ไม่ได้สนใจดวงดาวเลยวักนิด เขาคิดว่าเขาจะนอนมองหน้าทอมไปแบบนี้และ

 

“คุณรู้ไหมครับว่าอีวานถามอะไรผมด้วย”ไม่นานนักทอมก็พูดขึ้นมาอีก พร้อมกับเจ้าตัวที่พลิกตัวตะแคงข้างเพื่อมองสบตากับเขา และเขาก็เปลี่ยนเป็นยันตัวขึ้นมาเพื่อมองสบตาของทอม

 

“เขาถามอะไรหรือ”

 

“อีวานถามว่าผมมีความสุขไหมที่อยู่กับคุณ…”เขาได้ยินเสียงหวานนั่นดังก้องเขามาในโสดประสาท ขณะที่มองใบหน้าทอมที่แม้ว่าจะมืดแต่ก็พอเห็นว่าทอมอายมากแค่ไหน แต่ก็ยังคงสบตากับเขาอยู่

 

“แล้วนายตอบว่าไง?”เขาถามออกไปเสียงเบาเรียกรอยยิ้มเล็กๆออกมาจากใบหน้าของทอม ก่อนเจ้าตัวจะแส่หน้าไปอีกทางอย่างพยายามรวบรวมความกล้า ก่อนจะหันมาสบตากับเขาอีกครั้ง

 

“ผมตอบไปว่าผมมีความสุขมาก”เขาเผลอตัวยิ้มออกมาตามคนตัวเล็กไม่ได้เมื่อได้ยินคำตอบของทอม แล้วทั้งคู่ก็ขำออกมาเบาๆโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรต่อจากนั่น ทอมแค่พลิกตัวกลับมานอนหงายเหมือนเดิมขณะมองออกไปยังท้องฟ้ากว้าง ส่วนเขาก็ลุกขึ้นมานั่งกอดเขาดีๆพร้อมกับหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้างๆ

 

“ฉันก็สวยมากๆเหมือนกัน”เขาพูดออกมาเบาๆจนไม่แน่ใจว่าเขาพูดออกไปหรือเปล่า แต่ทอมก็หันหน้ามามองเขานิดๆ

 

“ดาวหรือครับ?”ทอมถามออกมาแต่เขากลับสายหน้าเล็กน้อยในเชิงปฏิเสธ ก่อนจะขยับไปใกล้ทอมและโน้มตัวลงไปตรงหน้าของทอม โดยที่ใช่ท้อนแขนแข็งแรงทั้งสองข้างยันตัวเองเอาไว้ไม่ให้ล้มใส่ทอม ขณะที่ยังคงมองสบดวงตากลมสีเขียวของคนข้างใต้นิ่ง

 

“นายก็เห็นว่าฉันมองอยู่อย่างเดียวตลอดเวลา…ดาวสีเขียวสวยที่มีประกายกว่าก้อนหินทือๆบนฟ้าอีก”เขาบอกก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นว่าทอมหัวเราะออกมาอายๆพลางพยายามหลบตาเขา แต่ก็หันมามองสบตาเขาในที่สุด พร้อมกับมือเรียวทั้งสองที่เอื่อมขึ้นมาปัดปอยผมของเขาให้ขึ้นไปทัดใบหูเหมือนเดิม

 

“ผมก็ชอบดาวสีฟ้าๆครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นกลุ่มดาวหมาป่าหรือเปล่า คุณคิดว่ายังไงครับ?”ทอมแกล้งบอกอย่างสงสัย ทำให้เขาขำออกมา พร้อมกับขยับตัวกลับมานั่งดีๆเหมือนเดิม

 

“เป็นดาวลูกแกะต่างหาก…”คริสบอกยิ้มๆขณะขยิบตาให้คนที่นอนอยู่ ซึ่งทอมก็ทำเพียงแกล้งเลิกคิ้วขึ้นมาอย่างตกใจก่อนทั้งคู่จะขำออกมา

 

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ได้แต่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนหลังคารถยนต์ไม่รู้ว่าเวลาผ่านมาเท่าไหรแล้ว เขาได้แต่เงยหน้ามองดูดาวบนหัวที่เยอะเหลือเกิน สลับกับมองดูใบหน้าเปื้อนยิ้มของทอม จนกระทั้งเขามั่นใจว่าทอมแอบหลับไปบ้างแล้ว เขาจึงตัดสินใจว่าควรจะให้ทอมไปนอนได้แล้ว ซึ่งทอมก็ลุกขึ้นมานั่งอย่างว่าง่าย พร้อมกับลงมาจากหลังคารถด้วยความร่วมมืออย่างดี แม้ว่าจะมีเซนิดหน่อยแต่เพราะเขาเตรียมตัวรออยู่แล้วทอมจึงไม่ได้ลงไปก้นจ้ำเบ้าบนพื้น แต่ลงมาสู่อ้อมกอดของเขาต่างหาก แม้ว่ามันจะทำให้ใบหน้าของทอมอยู่ห่างเขาไปไม่มากแต่ทั้งคู่ก็พละออกจากกันอย่างรวดเร็วราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“ทอม ฉันมีอะไรจะให้นายด้วย…มันอยู่ในเต้นท์น่ะ”เขาพูดขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ถึงพวงกุญแจไม้แกะสลักที่เขาทำเอง ก็ทำไว้นานแล้วและแต่ตั้งไว้ในตู้โชว์บ้านของแลม บางทีทอมอาจจะชอบมันก็ได้เขาเลยเอาติดกระเป๋ามาด้วย ซึ่งทอมก็พยักหน้าพร้อมกับมุดเข้าเต้นท์ไปอย่างว่างาน ในขณะที่เขาเดินสำรวจข้าวของเป้นครั้งสุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะนอน

 

ชายหนุ่มมองดูเจ้าสิ่งที่ตั้งเด่นอยู่กลางที่พักของพวกเขาอย่างวิเคราะห์เล็กน้อยว่ามันคืออะไร ในขณะที่เอื่อมมือออกไปหยิบมันขึ้นมา และเขาก็ตาโตขึ้นมาอย่างตกใจเล็กน้อยว่าไอ้ที่อยู่ในมือเขาตอนนี้คือ”คอนดอม”ก่อนที่ใบหน้าเขาจะแดงขึ้นมาจนเขามั่นใจว่าไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ว่าแดงแค่ไหน เดี่ยวน่ะ!?! ไอ้นี่หรือที่คริสบอกจะให้เขา??? มันไม่เร็วไปหน่อยหรือที่จะให้อะไรแบบนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหย่พร้อมกับหัวใจที่เต้นรั่วจนเขานึกอยากจะวิ่งออกไปนอกเต้นท์เพื่อสงบสติอารมณ์ จากที่ง่วงๆเมื่อกี่เขามั่นใจว่าตอนนี้เขาตาสว่างแล้วแน่ๆ และนั่นก็เป็นเวลาเดียวกับที่คริสเข้ามาในเต้นท์ก่อนที่ร่างสูงจะยิ้มให้เขา และเขาก็ยิ้มตอบกลับไปอย่างแห้งๆ

 

“เอ่อ…คริส ของที่จะให้ฉันใช่อันที่มันวางอยู่ตรงนี้หรือ”เขาถามออกไปอย่างไม่แน่ใจ ซึ่งนั่นก็ทำให้คริสหันมามองเขาอย่างไม่แน่ใจ

 

“นายเจอแล้วหรือ? สงสัยจะหลนออกมา…นายชอบไหม?”คริสยิ้มออกมานั่นยิ่งทำให้เขาหน้าแดงเข้าไปใหญ่จนไม่แน่ใจว่าจะตอบว่าอะไรดี

 

“เอ่อ…ฉัน…ฉัน…”คริสขมวดคิ้วเล็กน้อยกับท่าทีของทอมที่เปลี่ยนไปจนเขาเริ่มคิดว่าทำอะไรวักอย่างผิดไปหรือเปล่า ทอมถึงได้มีอาการประหม่าออกมาขนาดนี้ พร้อมกับใบหน้าหวานที่ตอนนี้ชมพูขึ้นมาจนเขาอดใจเต้นไม่ได้ บางทีทอมอาจจะเขินมากก็ได้ที่เขาเอาขอบทำมือแบบนี้มาให้ ซึ่งเขาก้ทำได้เพียงยิ้มออกมาแต่ทอมกลับหลบตาเขาเป็นการใหญ่พร้อมกับยกของในมือขึ้นมาน้อยๆ …และมันทำให้เขาเกือบจะตาหลุดออกจากเบ้าเพราะเจ้าของที่อยู่ในมือของทอมมันไม่ได้ใกล้เคียงกับอะไรที่เขาเจตนาไว้เลยแม้แต่น้อย

 

“ไม่ทอม!!! ไม่ใช่…ไม่ใช่อันนี้!!! ไม่ใช่แน่นอน…ฉันสาบาน…”เขาพยายามพูดปฏิเสธออกมาขณะรีบดึงห่อพราสติกออกมาจากมือเรียวและเก็บมันยัดเข้ากระเป๋าอย่างว่องไว

 

“ไม่ใช่อันนั่น..มันของน้องชายฉัน…เขาให้มา-ไม่สิ ไม่ใช่…มันติดมา ไม่มีอะไรจริงๆทอม ฉันขอโทษ…”เขาพยายามแก้ตัวพลางส่งยิ้มเป็นการใหญ่ให้ชายหนุ่มที่พยายามทำความเข้าใจเรื่องราวอยู่ ซึ่งเขามั่นใจว่าตอนนี้ถ้าแลมมันอยู่ใกล้ๆเขาจะวิ่งไปบีบคอมันเดียวนี้และ

 

“อ-โอเค…”

 

“อันนี่ที่ฉันจะให้นาย”เพื่อแก้สถานการณ์ เขาจึงรีบหยิบเอาพวงกุญแจไม้ออกมาจากกระเป๋าทันที ก่อนจะยื้นมันให้ทอม ซึ่งเจ้าตัวก้รับไปดูก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

“มันน่ารักมาเลยครับ”เขาเห็นมือเรียวพลิกไปพลิกมาอยู่บนรูปแกะสลักนกฮูกที่เขาใช่เวลาทำเกือบ3วัน  รวมทั้งเคลือบสีเองด้วย และเขาก็รู้สึกดีไม่ใช่น้อยเมื่อเห็นว่าทอมชอบมัน

 

“ฉันทำเองเลยน่ะ แกะเอาจากมีดพก…ฉันดีใจที่นายชอบ”เขาพูดออกมาอีก ทำให้ทอมเงยหน้าขึ้นมามองเขาพร้อมกับแก้มเนียนที่ขึ้นสีจางๆ

 

“ขอบคุณครับ ผมก็ชอบแพนกวิ้นน่ะ”ทอมพูดออกมา ซึ่งนั่นทำให้เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยแต่ก็ยิ้มออมาในที่สุดเมื่อเห็นชายหนุ่มเลิกคิ้วในเชิงถาม

 

“จริงๆแล้วฉันอยากให้มันเป็นนกฮูกน่ะ ถ้านายมองเป็นแพนกวิ้นก็น่ารักไปอีกแบบ”เขาบอก ทำให้ทอมอ้าปากเล็กๆ

 

“ถือว่าเป็นลูกผสมก็ได้ครับ”ชายหนุ่มขำออกมาเล็กๆ

 

“ทอม..”เขาเริ่มพูดออกมาในที่สุดหลังจากที่เงียบอยู่นาน “พรุ่งนี่นายอยู่ที่นี้อีกแค่วันเดียวเองใช่ไหม”เขาบอกทำให้ทอมเงยหน้าขึ้นมา

 

“ครับ..วันต่อไปก็ต้องเดินทางกลับแล้ว”ชายหนุ่มบอก ทำให้เขาพยายามสูดหายใจเข้าให้ลึกที่สุด จนทอมเองก็อดตั้งใจฟังไม่ได้

 

“พรุ่งนี่เย็นเราออกไปทานดินเนอร์กันในเมืองดีไหม?”คริสพูดออกมา ทำให้ชายหนุ่มพยักหน้านิดๆ

 

“ครับ ได้สิ”ร่างสูงมองสบตากลมโตของอีกฝ่ายนิ่งก่อนจะพูดต่อ

 

“หมายถึง…ไม่ใช่แบบเพื่อน”คริสพูดออกมาเสียงเบา “ฉันกำลังขอนายเดทอยู่..”

 

เกี่ยวกับ jrasmason

สวัสดีทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมกันนะค่ะ บล็อกนี้จีนจะลงเป็นFictionหรือว่าเป็นAUนะค่ะ คู่หลักก็จะเป็นHiddleswothและคู่อื่นๆอีกตามแต่อารมณ์ค่ะ ฮ่าๆ หวังว่าจะชอบและสนุกกับนิยายที่จีนเขียนนะค่่ะ ขอบคุณค่ะ //จุ๊บๆ
เรื่องนี้ถูกเขียนใน Travel Trip, Z All Fiction และติดป้ายกำกับ , , , , , , , , , คั่นหน้า ลิงก์ถาวร

2 ตอบกลับที่ [FIC] Hiddlesworth [ChrisXTom]#7 Travel Trip

  1. เจอิน พูดว่า:

    เขินนนนนนนน ง่ะโอ้ยแลมนะแลมเกือบทำพี่ซวยละมั้ย ส่วนทอมน่ารักมากคนอะไรผู้ดี๊ผู้ดี

  2. J พูดว่า:

    มันดีมากกกกกกกกกกกก มากจริงๆนะ ตอนเล่นกันที่แคมป์ ร้องเพลงกัน เต้นกัน ธรรมชาติแล้วก็ดูสนุกกันมาก

ใส่ความเห็น